ความท้าทาย
การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ถูกขับเคลื่อนให้เติบโตควบคู่กับความรับผิดชอบทางสังคมในมิติต่างๆ ซึ่งประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนจัดได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและได้รับความสนใจ อีกทั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในทุกระดับชั้นของกิจกรรมทางธุรกิจ การดูแลและเฝ้าระวัง รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงของกิจกรรมในห่วงโซ่อุปทาน จึงเป็นความท้าทายที่สำคัญของกลุ่มมิตรผล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินธุรกิจตั้งอยู่บนการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
ความมุ่งมั่นและแนวทางบริหารจัดการ
การเคารพต่อสิทธิมนุษยชนเป็นหนึ่งในพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งกลุ่มมิตรผลให้ความสำคัญและดำเนินงานภายใต้แนวคิดนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการบริษัทมีการกำกับ ดูแล และกำหนดแนวทาง รวมถึงส่งเสริมการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชน ผ่านการอนุมัตินโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนครอบคลุมและสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและสังคมจึงได้มีการทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงแค่นโยบายด้านสิทธิมนุษยชนแต่ยังรวมไปถึงนโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เช่น นโยบายคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร เป็นต้น เพื่อให้มีความชัดเจน มีความสอดคล้องกับกฎหมายและหลักปฏิบัติสากล ยิ่งไปกว่านั้นเราได้มีการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจแก่บุคลากร ผ่านช่องทางและรูปแบบต่างๆ รวมถึงสื่อสารไปยังผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้รับทราบและมีความเข้าใจในวิถีการดำเนินงานของมิตรผล ซึ่งสื่อประชาสัมพันธ์ชุด “จรรณยาบรรณ เดอะซีรีส์” ของมิตรผล ในปี 2564 ได้เน้นย้ำประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน ในหัวข้อ “จรรณยาบรรณ เดอะซีรีส์” เรื่อง มิตรผลกับสิทธิมนุษยชน เพื่อสร้างความเข้าใจต่อบุคลากรมิตรผลอย่างต่อเนื่อง
การดำเนินงานที่สำคัญ
1. การปรับปรุงและทบทวนนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน
ในปี 2564 คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้มีการปรับปรุงและทบทวนนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Policy) รวมถึงได้ระบุประเด็นสิทธิมนุษยชนที่สำคัญในจรรยาบรรณมิตรผล ให้มีความครอบคลุมและสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและรัดกุม อันจะเป็นการป้องกันและส่งเสริมงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียอีกด้วย โดยมีประเด็นที่สำคัญ คือ
2. การทบทวนและตรวจสอบความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยนชน
กลุ่มมิตรผลนำหลักการชี้แนะเรื่องสิทธิมนุษยชนสำหรับธุรกิจแห่งสหประชาชาติ (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights; UNGP) มาใช้เป็นกรอบในการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน และจัดทำกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence; HRDD) ครอบคลุมทุกกิจกรรมทางธุรกิจในประเทศไทย และกิจกรรมทางธุรกิจในห่วงโซ่อุปทาน (คู่ค้าและผู้ร่วมธุรกิจ) รวมถึงการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง (การควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ รวมถึงกิจการร่วมค้า) และครอบคลุมทุกพื้นที่ปฏิบัติงานในประเทศไทยที่บริษัทมีพื้นที่ปฏิบัติการ เพื่อทบทวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน โดยพิจารณาครอบคลุมถึงประเด็น การบังคับใช้แรงงาน การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก เสรีภาพในการสมาคม สิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง การกำหนดค่าตอบแทนที่เป็นธรรม การเลือกปฏิบัติ การคุกคาม และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท รวมถึงกลุ่มผู้เปราะบาง เช่น เด็ก ผู้หญิง ผู้บกพร่องทางร่างกาย แรงงานต่างด้าว ชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งในส่วนของบุคลากรกลุ่มมิตรผล คู่ค้า (ชาวไร่ ผู้รับเหมา ลูกค้า) และผู้ร่วมธุรกิจ โดยมีกระบวนการ ดังภาพ
![]() |
นอกจากนี้กลุ่มมิตรผลได้มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญตลอดห่วงโซ่คุณค่าและได้มีการดำเนินการเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว โดยได้มีการกำหนดมาตรการควบคุมความเสี่ยงที่สำคัญในแต่ละด้าน ดังนี้
ความเสี่ยงที่สำคัญ | ตัวอย่างมาตรการควบคุมในปัจจุบัน |
1. แรงงาน | |
1) ความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน |
1.1 มีนโยบายความปลอดภัยและมาตรฐานการปฏิบัติงานและเครื่องมือ อุปกรณ์ 1.2 มีการกำหนดกฎพิทักษ์ชีวิตตามความเสี่ยงของแต่ละกลุ่มธุรกิจ และการตรวจประเมินด้าน ความปลอดภัยทั่วทั้งองค์กร และส่งเสริมการมีส่วนร่วมแต่ละโรงงานตามกรอบการ ดำเนินงานด้านความปลอดภัยฯ (SSHE framework) 1.3 มีการฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยในการทำงาน และการทำงานในพื้นที่เสี่ยง ให้แก่ พนักงาน ชาวไร่ และผู้รับเหมา 1.4 มีการจัดเตรียมอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลให้กับพนักงานและผู้รับเหมา 1.5 มีโครงการสังเกตพฤติกรรมความปลอดภัย (Behavior Base Safety) และการรายงานสภาพ ที่ไม่ปลอดภัยเพื่อแก้ไข |
2) ความชัดเจนในเงื่อนไขของการจ้างแรงงานในห่วงโซ่อุปทาน |
2.1 มีคู่มือการปฎิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคลและแรงงานจ้างเหมา 2.3 มีกระบวนการตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขของการจ้างแรงงานทั้งจากหน่วยงานภายใน และภายนอก |
3) การนำบุตรหลานเข้ามาในพื้นที่ ปฏิบัติงาน |
3.1 มีระบบควบคุมและตรวจสอบการเข้า-ออกพื้นที่โรงงานในทุกธุรกิจ 3.2 มีกระบวนการให้ความรู้และทำความเข้าใจ รวมถึงมีกระบวนการสอบตรวจในพื้นที่ไร่อ้อย |
2. ชุมชนและสังคม | |
1) ความปลอดภัยและวิถีการดำรงชีวิตของคนในชุมชน |
1.1 กระบวนการสำรวจพื้นที่ชุมชน และกระบวนรับข้อร้องเรียนที่ชัดเจน และหน่วยงานราชการ/เครือข่ายธรรมภิบาล |
2) การบริหารจัดการน้ำใช้ในการดำเนินธุรกิจ |
2.1 จัดให้มีและปรับปรุงระบบบำบัดกลิ่นและอากาศ และระบบบำบัดน้ำทิ้ง 2.2 โครงการ Zero discharge โดยมีการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ในด้านเกษตรกรรมของ กลุ่มมิตรผล |
3) การจัดการของเสียและมลภาวะ |
3.1 มีระบบการเฝ้าระวังและติดตามควบคุมผ่านตัวชี้วัดที่สำคัญด้านสิ่งแวดล้อม และการเริ่มนำ แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ (The American Meteorological Society/Environmental Protection Agency Regulatory Model Improvement Committee's Dispersion Model: AERMOD) ในการจัดการมลพิษทางอากาศเข้ามาใช้ในบริษัท 3.2 มีแผนการตรวจวัดค่าคุณภาพสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกโรงงานอย่างสม่ำเสมอ 3.3 นโยบาย Green procurement 3.4 นโยบายจ้างคู่ค้าที่ได้รับการอนุญาตนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ออกนอกโรงงานเพื่อนำไปกำจัด ตามประเภทที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนด และขึ้นทะเบียนแล้วเท่านั้น |
3. ผู้บริโภค | |
สุขภาพและ ความปลอดภัยของ ผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์น้ำตาล |
1. ดูแล ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารตามาตรฐานสากล ได้แก่ มาตรฐานระบบ การบริหารจัดการคุณภาพ (ISO9001:2015) / มาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภัยของ อาหาร ( ISO22000) / หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหารและการจัดการด้านการควบคุม กระบวนการผลิต (GMP) ตลอดกระบวนการผลิตและขนส่ง 2. มีการตรวจสอบ และควบคุมสารปนเปื้อนในวัตถุดิบ เช่นสารกำจัดวัชพืช โลหะหนัก ให้เป็นไป ตามมาตรฐานที่กำหนด 3. ใช้เทคโนโลยีใช้ในกระบวนการผลิตและบรรจุ เพื่อลดการสัมผัสของคน 4. มีการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่รับวัตถุดิบ การควบคุมบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ขั้นตอนการผลิต และการส่งมอบ ตามระบบมาตรฐานสากล เช่น IPHA, Thai Stop Covid Plus 5. มีการสุ่มสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าและผู้บริโภค อย่างสม่ำเสมอ และนำข้อมูลที่ได้มา แก้ไขป้องกันอย่างเป็นระบบ 6. มีกระบวนการรับข้อร้องเรียนจากลูกค้าและผู้บริโภค และ Feedback โดยมีหน่วยงานที่ ทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง |
![]() |
หมายเหตุ: ในปัจจุบันธุรกิจภายในประเทศของบริษัทไม่มีผู้ร่วมธุรกิจ (Business Partner) |
จากความมุ่งมั่นในการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชน ในปีนี้ กลุ่มมิตรผล โดยบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ได้รับรางวัล
ดีเด่นองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2564 ประเภทภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ที่จัดขึ้นโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ตอกย้ำจึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชนของกลุ่มมิตรผล เพื่อเทียบเคียงกับหลักเกณฑ์ในระดับประเทศ
![]() |
![]() |